impression

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำตกน่าเที่ยวของไทย



ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย น้ำตกถือเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ได้อย่างสวยงาม

น้ำตกทีลอซู


           น้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ห่างจากที่ทำการเขตฯ 3 กม. ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย1
           ทีลอซู ได้รับคำกล่าวขานถึงว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามมากและจะมีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน ระหว่าง 1 มิ.ย. - 31 พ.ย. ปริมาณน้ำฝนที่มากจะเพิ่มปริมาณน้ำในลำธารทำให้สายน้ำตกกว้างใหญ่กว่าฤดูอื่น แต่เป็นช่วงที่ทางรถเข้าน้ำตกปิด เพื่อป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้เส้นทางและถนอมสภาพทางไม่ให้เสียหาย นักท่องเที่ยวอาจเลี่ยงใช้เส้นทางนี้ได้ โดยการซื้อทัวร์กับบริษัทนำเที่ยวซึ่งจะเดินทางด้วยเรือยางและเดินป่าอีกราว 12 กม.แต่หากมาท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว - ฤดูร้อนระหว่าง 1 ธ.ค. - 31 พ.ค. ก็สามารถใช้ทางรถยนต์เข้าน้ำตกได้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เที่ยวได้สะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเที่ยวแบบไปกลับหรือพักค้างแรม

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น



         น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นน้ำตกที่มีความงดงามแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกหินปูน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เกิดจากผืนป่าต้นน้ำแม่น้ำแควใหญ่ หรือแม่กลอง มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ เมื่อเริ่มเดินทางจาเขื่อนศรีนครินทร์ จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างเช่น น้ำตกเอราวัณ เขื่อนศรีนครินทร์ ถ้ำพระธาตุ เดี๋ยวเส้นทางรถยนต์ค่อนข้างดี อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคงจะเป็นทางราดยางทั้งหมด

                 
                
น้ำตกเอราวัณ


         น้ำตกเอราวัณ เป็นลักษณะน้ำตกที่มีระยะทางยาวประมาณ 1,500 เมตร ติดต่อกันซึ่งแบ่งออกเป็นชั้น ๆ ได้ 7 ชั้นด้วยกัน แต่ละ ชั้นมีความสวยงามร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ทั้งเถาวัลย์พันเกี่ยว ทอดตัวไปบนต้นไม้ใหญ่ กล้วยไม้ป่าหลายชนิดบนคาคบไม้ สายธาร น้ำที่ไหลตกลดหลั้นลงมาบนโขดหินสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เสี่ยงสาดซ่า คลอเคล้าด้วยส่งเสียงเรียกของนกป่า ทำให้สภาพความเป็นธรรมชาติ สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นับเป็นบรรยากาศที่เรียกเอาความมีคุณค่าของป่า เขาลำเนาไพรซึบซับเข้าสู่อารมณ์ผู้ใฝ่หาความสันโดษ และรักธรรม ชาติโดยแท้จริง ในชั้นที่ 7 อันเป็นชึ้นบนสุดของน้ำตก เมื่อมีน้ำตก ไหลบ่าจะมีรูปคล้ายหัวช้างเอราวัณ จนคนทั่วไปรู้จักและขนานนามว่า “ น้ำตกเอราวัณ ”

น้ำตกพลิ้ว



          น้ำตกพลิ้ว Namtok phile อยู่ที่อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ปกติน้ำใสมากสามารถมองเห็นพื้นล่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลองมีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตื่นตาตรึงใจกับฝูงปลาแก่ผู้ที่ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะปลาพวงหิน

น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู)


        น้ำตกแสงจันทร์ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีความโดดเด่นตรงที่เป็นน้ำตกลงรูเพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทย โดยรูของน้ำตกนี้ไม่ใช่รูเล็กๆ แต่เป็นรูขนาดใหญ่ที่คนสามารถตกลงไปบาดเจ็บพิการได้และอาจทำให้เสียชีวิตได้
       "น้ำตกแสงจันทร์" มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า " น้ำตกลอดรูหรือน้ำตกลงรู " ซึ่งเรียกตามลักษณะของสายน้ำที่ตกผ่านลงรูหิน ส่วนที่มาของชื่อน้ำตกแสงจันทร์นั้น เรียกตามสายธารน้ำตก ที่โปรยละอองผ่านช่องหินลงมาเป็นสีขาวนวลคล้ายแสงจันทร์โดยเฉพาะในวันเพ็ญ ที่แสงจันทร์จะสาดส่องมาตรงรูหินพอดี พร้อมกับละอองของธารน้ำตกที่โปรย ดูเป็นประกายสีนวลสวยงามมาก ซึ่งทั้งหมดนี้คือที่มาของชื่อและเสน่ห์ของน้ำตกแห่งนี้ ที่ยังคงเก็บความงามสงบประสานอย่างกลมเกลือนของธรรมชาติไว้ให้เป็นที่ประทับใจแก่ทุกคน
        " รูหิน " เกิดจากการถูกน้ำกัดเซาะเนื่องจากหินทรายทนตอการถูกกัดกร่อนน้อย กำเนิดของน้ำตกแสงจันทร์จึงเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ลงตัวของ " หินทรายและสายน้ำ "

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย


         น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นลำห้วยที่เกิดจากป่าเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไหลรวมกับแม่น้ำป่าสักที่ตำบลวังม่วง อำเภอมวกเหล็ก (ปัจจุบันคืออำเภอวังม่วง) จังหวัดสระบุรีเป็นน้ำตกชั้นเตี้ยๆ จำนวน 9 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงตั้งแต่ 2-5 เมตร สายน้ำไหลลดหลั่นเป็นธารน้ำตกกว้างคล้ายแก่งขนาดใหญ่ มีอ่างน้ำตื้นๆ หลายแห่งที่สามารถลงเล่นน้ำได้ น้ำตกชั้นที่สวยงามที่สุดคือชั้นที่ 4 ช่วงที่สวยงามที่สุดของน้ำตกจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน – เมษายน เพราะน้ำใสและยังปลอดภัยแก่ผู้ลงเล่นน้ำเนื่องจากน้ำไม่เชี่ยวเหมือนในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคมชื่อของ “น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” มีที่มาของชื่อตามคำบอกเล่าของชาวบ้านว่ามีนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นหญิงสาวทั้งหมดจำนวน 7 คน มาเล่นน้ำที่น้ำตกแห่งนี้แล้วจมน้ำเสียชีวิตพร้อมกันทั้งหมด แต่บางคนก็ว่า เดิมทางทิศเหนือของน้ำตกมีหมู่บ้านชื่อว่า “บ้านเสาน้อย” ซึ่งต่อมาได้เรียกเพี้ยนเป็นสาวน้อย

ที่มา
http://fwmail.teenee.com/cute/16927.html
http://www.learners.in.th/blogs/posts/390174

ไม้ดอกไทยหนึ่งในโลก

บัวหลวง


       
         บัวหลวง เป็นพืชน้ำล้มลุก ลักษณะลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้า ไหล หรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยวเจริญขึ้นจากลำต้น โดยมีก้านใบส่งขึ้นมาเจริญที่ใต้น้ำ ผิวน้ำหรือเหนือน้ำ รูปร่างของใบส่วนใหญ่กลมมีหลายแบบ บางชนิดมีก้านใบบัว
         บัวเป็นราชินีแห่งไม้น้ำ จัดเป็นพันธุ์ไม้น้ำที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของคุณงามความดี บัวหลวงชอบขึ้นในน้ำจืดออกดอกตลอดปี ชอบน้ำสะอาด อยู่ในน้ำลึกพอสมควร ถิ่นกำเนิดของบัวอยู่ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จะเริ่มบานตั้งแต่ตอนเช้า ก้านดอกยาวมีหนามเหมือนก้านใบ ชูดอกเหนือน้ำ และชูสูงกว่าใบเล็กน้อย กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ สีขาวอมเขียวหรือสีเทาชมพู ร่วงง่าย กลีบดอกจำนวนมากเรียงซ้อนหลายชั้น เกสรตัวผู้มีจำนวนหลายสี

ดาวเรือง


           ดาวเรือง นิยมปลูกตัดดอก เป็นดาวเรืองในกลุ่ม African หรือ American marigold เป็นพันธุ์ดอกใหญ่ พันธุ์ที่ใช้เป็นการค้าในประเทศไทยได้แก่พันธุ์ซอเวอร์เรน (soverign) นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์ใหม่ๆที่นำเข้ามาได้แก่ พันธุ์จาไมก้า (jamaica) และอื่นๆอีกหลายพันธุ์
ดาวเรืองขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดเป็นหลัก อาจใช้การปักชำได้ แต่ต้นที่ได้จะให้ดอกที่มีขนาดเล็กกว่า






                                                                  ชวนชม


         ชวนชม (Desert Rose; Impala Lily; Mock Azalea) เป็นชื่อของพรรณไม้ที่มีสีสันของดอกสวยงาม เป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพแห้งแล้งมาก จนได้รับสมญาว่า Desert Rose (กุหลาบทะเลทราย) นอกจากนี้ตามความเชื่อของคนไทยชื่อ "ชวนชม" ยังเป็นชื่อที่มีความไพเราะเป็นศิริมงคล และชาวจีนว่า "ปู้กุ้ยฮวย" ซึ่งแปลว่า ดอกไม้แห่งความร่ำรวย แต่ดอกชวนชมมีสาร abobioside, echubioside ตรงน้ำยางสีขาว ถ้าน้ำยางถูกผิวหนังจะทำให้ผิวหนังอักเสบเป็นผื่นแดง ถ้าเข้าตา ตาจะอักเสบ กินเข้าไปจะเป็นพิษ แต่น้ำยางมีรสขมมาก โอกาสกินมีน้อย ถ้ากินจะมีผลต่อหัวใจ อาการเบื้องต้นจะทำให้ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ตาพร่า หัวใจเต้นอ่อน ความดันลดลงอาจตายได้

กล้วยไม้สกุลรองเท้านารี



             กล้วยไม้สกุลรองเท้านารี (Paphiopedilum) เป็นพันธุ์ไม้ประเภทกล้วยไม้ ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2429 โดยนักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน มาจากรากศัพท์ภาษากรีกคือ Paphia หมายถึงเทพธิดาแห่งความรักและความงาม และ pedilon หมายถึงรองเท้าของผู้หญิง ซึ่งหมายถึงลักษณะกลีบดอกที่เป็นถุงลึกคล้ายรองเท้า พบทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          แหล่งกำเนิด
กล้วยไม้รองเท้านารี มีแหล่งกำเนิดอยู่ในเขตอบอุ่น และเขตร้อนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่อินเดีย ฟิลิปปินส์ พม่า มาเลเซีย และในประเทศไทยซึ่งพบกล้วยไม้รองเท้านารีขึ้นอยู่ในป่าทั่วๆ ไป
         ลักษณะเด่น
มีรูปร่างคล้ายกับรองเท้าของสตรีและรองเท้าไม้ของชาวเนเธอแลนด์ กระเป๋าของรองเท้านารีมีรูปร่างลักษณะและสีสันแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์

ดอนญ่าควีนสิริกิติ์


         ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Mussaenda philippica 'Queen Sirikit', อังกฤษ: Dona Queen Sirikit) เป็นพุ่มไม้ประดับของฟิลิปปินส์ ดอกสีชมพูอ่อนมีกลีบ 5 กลีบ ขอบกลีบเป็นสีชมพูเข้ม ออกดอกเกือบตลอดทั้งปี เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยือนฟิลิปปินส์เมื่อ พ.ศ. 2506 รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ขอพระราชทานตั้งชื่อตามพระนาม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เทียนนกแก้ว



             ดอกเทียนนกแก้ว ดอกไม้แปลกตาเป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นของไทย หาไม่ได้จากที่ใดๆ ในโลก จัดอยู่ในกลุ่มของต้นเทียน มีรูปทรงดอกที่สวยงามเหมือนดั่งนกที่โดนแมวกัดไปครึ่งตัว เราเรียกชื่อตามลักษณะรูปทรงว่า เทียนนกแก้ว จัดอยู่ในกลุ่มพืชล้มลุก ลำต้นอวบน้ำ สูง 0.5-1.5 เมตร ใบเดี่ยวรูปไข่กว้าง โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบจัก ขนาดกว้าง 2-4 ซม. ยาว 5-10 ซม. ลักษณะดอกเหมือนดังที่เห็นในภาพ ออกเดี่ยวตามก้านใบ หรือปลายยอด ขนาดดอกกว้าง 2-3 ซม. ยาวประมาณ 5-7 ซม. ช่วงเวลาออกดอก ต.ค. - พ.ย. ประโยชน์คือ สวย ชมแล้วชื่นใจ

           เทียนนกแก้ว เป็นพรรณไม้บนเขาสูงไม่สามารถหาชมได้จากแปลงดอกไม้ตามพื้นราบทั่วไป ระดับความสูงที่พบต้นเทียนนกแก้วคือ 1,500 -1,800 เมตร และพบได้เพียงที่เดียวคือที่ดอยหลวงเชียงดาว ดอกจะบานราวเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน คนทั่วไปจึงไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะอยู่บนภูเขาสูง การไปชมนั้นจะต้องเดินขึ้นภูเขาไปชม ดงดอกเทียนนกแก้วก็เป็นอีกจุดหนึ่งของเส้นทางท่องเที่ยวของทริปทัวร์ แต่ละทริปจะใช้เวลา 3 วัน 2 คืน

ที่มา
http://www.tourdoi.com/flower/chd/parrot_flower/index.html
http://www.encyclopediathai.org/lotus2/bouluang.htm

อาหารไทยเพื่อสุขภาพ

หลักในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ

1. รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนักตัวให้เป็นปกติ
2. รับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก ข้าวควรรับประทานเป็นข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ
3. รับประทานพืชผักผลไม้เป็นประจำ
4. รับประทานปลาและเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
5. รับประทานที่มีไขมันแต่พอควร
6. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสหวานจัดและเค็มจัด
7. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารถนอม เช่น อาหารหมักดองอาหารกระป๋อง
8. งดหรือลดเครื่องดื่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ข้าวยำ


ลักษณะการทำ

          ข้าวยำทำจากข้าวที่เรารับประทานกันประจำวันนี้เอง แต่เพิ่มการปรุงแต่งบ้างเล็กน้อย เพื่อให้ข้าวเหล่านั้นมีสีสันและรสชาติที่น่ารับประทานมากขึ้น ในข้าวยำจะมีผักรับประทานกับข้าวยำเรียกผักหมวด ผักที่นิยมนำมาทำเป็นผักหมวด ได้แก่ ถั่วฝักยาว ถั่วงอก ตะไคร้ กระถิน ยอดมะม่วงหิมพานต์ ผักบุ้ง ใบยอ ถั่วพู และพาโหม ราดด้วยน้ำบูดู
           ปัจจุบันมีการเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารมากขึ้นทั้งการเพิ่มข้าวสีต่างๆจากการปรุงกับดอกไม้และสมุนไพรหลายชนิด เพิ่มดอกดาหลา และดอกไม้ทานได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าในการผลิตขึ้นก็มีการบรรจุน้ำบูดูปรุงรสออกจำหน่ายไปทั้งในและนอกประเทศอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้าวยำในประเทศเกาหลีที่มีลักษณะการทำและปรุงรสใกล้เคียงกับข้าวยำในบ้านเราอีกด้วย

คุณค่าทางโภชนาการ

ในข้าวยำจานหนึ่งนั้น มีสารอาหารหลายอย่าง ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินซี และวิตามินเอ คุณค่าทางโภชนาการจากผักหมวดพบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งลดการก่อตัวของมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีฟลาโวนอยด์ วิตามินอี

ต้มยำกุ้ง


         "ต้มยำกุ้ง" เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการบริโภคของคนไทย และชาวต่างประเทศทั้งในทวีปเอเชียและแถบตะวันตก ปัจจุบันมีการผลิตเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมาก ส่วนประกอบของอาหารที่สำคัญในเครื่องต้มยำกุ้ง คือ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพืชผัก สมุนไพรที่ให้สรรพคุณในการป้องกันและรักษาโรคได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งสิ้น
คุณค่าทางโภชนาการ
ในต้มยำกุ้งมีพลังงาน 43.47 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 3.6 กรัม ไขมัน 2.15 กรัม คาร์โบไฮเดรต 2.43 กรัม ใยอาหาร 0.9 กรัม แคลเซียม 24.66 มิลลิกรัม เหล็ก 0.23 มิลลิกรัม

จุดเด่นด้านคุณค่าทางโภชนาการของต้มยำกุ้ง
มีไขมันน้อย และให้พลังงานต่ำมาก
คุณค่าของสมุนไพรไทย
-หัวหอม: ช่วยบรรเทาอาการหวัด หายใจไม่ออก
-พริกแห้ง: ช่วยเจริญอาหาร ขับลม เป็นยาระบาย ช่วยขับเสมหะ แก้หวัด
-ใบมะกรูด: ช่วยป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง
-ตะไคร้: ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ
-น้ำมะนาว: ขับเสมหะ แก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน บำรุงเลือด แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน

แกงเลียง


         
            แกงเลียง อาหารที่มีรสชาติเฉพาะตัวอร่อยเผ็ดร้อนพริกไทย หอมกลิ่นสมุนไพรจากพืชผักหลากหลายชนิด มีประโยชน์ในการขับพิษ ไข้เป็นอย่างดี เป็นแกงที่ประกอบด้วยน้ำพริก ผัก เนื้อสัตว์ น้ำแกงและเครื่องปรุงรส น้ำพริกแกงเลียงจะแปลกกว่าน้ำพริกแกงชนิดอื่นๆ เพราะมีพริกไทย หัวหอม กะปิ กุ้งแห้ง ปลาย่างหรือปลากรอบ น้ำแกงมีลักษณะข้น ผักที่นิยมใส่ที่สามารถบอกลักษณะว่าเป็นแกงเลียง คือ ใบแมงลักมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน นอกจากนั้นยังมีผัก เช่น ตำลึง ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน หัวปลี บวบ ผักหวาน ฯลฯ เนื้อสัตว์ ได้แก่ กุ้งสด เนื้อไก่ ฯลฯ ปรุงรสด้วยน้ำปลาหรือเกลือ
สรรพคุณทางยา
• พริกไทย รสเผ็ดร้อน ขับลม ขับเหงื่อ ช่วยเจริญอาหาร
• หอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด
• ผักต่าง ๆ เช่น ฟักทอง รสมันหวาน บำรุงร่างกาย บำรุงสายตา
• บวบ รสเย็นจืดออกหวาน มีแคลเซียม เหล็กและฟอสฟอรัสมาก
• น้ำเต้า
- ผลอ่อน ใช้ปรุงอาหาร
- เมล็ด ประเทศจีนนำมาต้มกับเกลือกินเพื่อเจริญอาหาร เถา, ใบอ่อน, เนื้อหุ้มรอบ ๆ เมล็ด ประเทศอินเดียใช้เป็นยาทำให้อาเจียนและยาระบาย เป็นยาถ่ายพยาธิและแก้อาการบวมน้ำ
• ตำลึง รสเย็น ใบสดตำคั้นน้ำแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดแสบปวดร้อน และคั้นรับประทานเป็นยาดับพิษร้อน แก้เจ็บตา ตาแดง ตาแฉะ
• ข้าวโพด รสมันหวาน
-เมล็ด เป็นยาบำรุงกระเพาะอาหาร ฝาด สมานบำรุงหัวใจ ปอด เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ
• ใบแมงลัก ใบสด รสหอมร้อน เป็นยาแก้หวัด แก้หลอดลมอักเสบ แก้โรคท้องร่วง ขับลม

ประโยชน์ทางอาหาร
แกงเลียงมีส่วนประกอบพริกขี้หนู หอม พริกไทย กะปิ เกลือ กุ้งแห้ง ผักต่าง ๆ เช่น บวบ ฟักทอง น้ำเต้า ตำลึง ข้าวโพด ใบแมงลัก โบราณเชื่อว่าเป็นอาหารที่ช่วยประสะน้ำนมสำหรับสตรีหลังคลอด ทำให้นมบริบูรณ์ และแก้ไข้หวัดได้เป็นอย่างดี

น้ำพริกกะปิ


        น้ำพริกกะปิ เป็นอาหารประเภทน้ำพริกอย่างหนึ่งที่มีส่วนประอบหลัก คือ กะปิ โดยใช้กะปิเผาไฟ โขลกกับเครื่องปรุงต่างๆ นำพริกกะปิเมื่อทำเสร็จแล้วจะมีสีน้ำตาลอมม่วง ลอยหน้าด้วยมะเขือพวงและพริก น้ำพริกกะปิจะรับประทานคู่กับ ปลาทูทอด หรือ ไข่ทอดชะอม

คุณค่าทางอาหาร
กะปิ เป็นส่วนผสมที่ขาดเสียไม่ได้ ทำมาจากกุ้งเคยที่ผ่านการตากแห้งและหมักอย่างดี ก่อนปรุงก็ผ่านความร้อนอ่อนๆ บนเตาย่าง คุณค่าทางอาหารจึงไม่เสียไปมาก โดยกะปิ 100 กรัม ให้แคลเซียมสูงถึง 1,554 มิลลิกรัม เพียงพอต่อความต้องการแคลเซียมในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยเสริมกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่คนรุ่นก่อน แม้จะไม่มีโอกาสดื่มนมมากเหมือนเด็กสมัยนี้ แต่ก็ยังมีสุขภาพกระดูกและฟันที่แข็งแรง
ปลาทู อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 และ 3 แคลเซียม ไอโอดีน ซีลีเนียม โอเมก้า 3 และ 6 ดีเอชเอ ซึ่งช่วยบำรุงจอประสาทตา ใยประสาทในสมอง บำรุงกระดูกและข้อ ควบคุมโคเลสตอรอล เพิ่มระดับไขมันดีให้แก่ร่างกาย ผู้ที่กำลังหลีกเลี่ยงไขมัน อาจนำปลาทูไปทอดในน้ำมันมะกอกพอให้ผิวเหลืองกรอบและนำไปย่างอีกที

ที่มา
http://www.tungsong.com/samunpai/food/Food.htm
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=48ae55b420096d11